คงปฏิเสธกันไม่ได้ถึงความสำคัญและความจำเป็นที่ต้องมีตู้เสื้อผ้าไว้ใช้งาน ตู้เสื้อผ้าเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งที่ต้องมีกันทุกบ้าน เนื่องจากเป็นที่เก็บเสื้อผ้าและเครื่องใช้ในการประดับตกแต่งร่างกาย มีจุดประสงค์ในการใช้งาน คือ ทำให้เสื้อผ้า และเครื่องใช้ในการตกแต่งร่างกายถูกจัดเก็บเป็นระเบียบเรียบร้อย ทำให้เสื้อผ้าไม่ยับ ไม่มีฝุ่นจับ และหยิบจับใช้สอยได้สะดวก
ตู้เสื้อผ้ามีให้เลือกใช้หลายแบบ เช่น ตู้เสื้อผ้าสำเร็จรูปและตู้เสื้อผ้าแบบ Built in ปัจจุบันมีห้องแต่งตัวที่ใช้ในการเก็บเสื้อผ้า มีการตกแต่งด้วยชั้นวางติดผนัง ตู้แขวน ลิ้นชัก และมีการแยกประเภทของราวแขวนเพื่อให้หยิบใช้งานได้ง่าย และดูเป็นระเบียบเรียบร้อย เช่น ราวแขวนเสื้อเชิ้ต ราวแขวนกางเกงผู้ชาย ราวแขวนชุดกระโปรง ราวแขวนเนคไท เป็นต้น สำหรับตู้เสื้อผ้าสำเร็จรูปและตู้เสื้อผ้าแบบ Built in มีข้อแตกต่างในการใช้งาน รวมถึงข้อดีข้อเสียที่ควรรู้เพื่อใช้ในการตัดสินใจก่อนเลือกซื้อเพื่อให้ตรงกับความชอบและวัตถุประสงค์ในการใช้งาน
4 ข้อแตกต่างระหว่างการใช้ตู้เสื้อผ้าสำเร็จรูปและตู้เสื้อผ้าแบบ Built in ประการแรกเป็นเรื่องของความหลากหลายของสินค้าที่มีให้เลือก การเลือกซื้อตู้เสื้อผ้าสำเร็จรูปสามารถเลือกแบบ ดีไซน์ วัสดุที่ใช้ผลิต สีสัน และลวดลายที่มีอยู่มากมายได้ตามร้านค้า แต่อาจไม่ได้ดังใจครบทุกอย่างที่ต้องการ หากเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Built in ผู้ใช้งานสามารถออกแบบรูปแบบของตู้เสื้อผ้า วัสดุ สีสันและลวดลาย รวมทั้งส่วนประกอบอื่น ๆ เช่น ชั้นวางติดผนัง ลิ้นชัก ราวแขวนต่าง ๆ ได้ตามความต้องการ ดังนั้น ผู้ใช้งานจะได้ตู้เสื้อผ้าที่ตรงกับการนำไปใช้งานมากที่สุด
ประการที่สอง แน่นอนว่าราคาของตู้เสื้อผ้าแบบ Built in มีราคาสูงกว่าตู้เสื้อผ้าสำเร็จรูป เนื่องจากตู้เสื้อผ้าแบบ Built in มีการออกแบบ การเลือกซื้อวัสดุ การผลิตและการติดตั้งเพียงงานเดียว ทำให้มีราคาสูงกว่าการทำตู้เสื้อผ้าสำเร็จรูปในปริมาณมากเพื่อนำออกมาจำหน่าย
ประการที่สาม ตู้เสื้อผ้าสำเร็จรูปเมื่อใช้งานแล้วสามารถเคลื่อนย้าย เปลี่ยนมุมได้ เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศในห้อง ทำให้แปลกตาเหมือนได้อยู่ห้องใหม่ แต่ตู้เสื้อผ้าแบบ Built in ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ผู้ใช้งานจึงควรออกแบบหรือเลือกรูปแบบให้เหมาะสม ถูกใจ และตรงกับความต้องการในการใช้งาน
ประการที่สี่ สำหรับตู้เสื้อผ้าแบบ Built in นอกจากผู้ใช้งานสามารถเลือกแบบตู้เสื้อผ้าได้ตามความต้องการแล้ว ยังสามารถเลือกรูปแบบของส่วนประกอบอื่น ๆ ที่ต้องการให้มีไว้ใช้งานด้วย เป็นการใช้พื้นที่ใช้สอยได้อย่างคุ้มค่า เช่น ชั้นวางติดผนัง โต๊ะเครื่องแป้ง กระจกแต่งตัว กล่องเก็บเครื่องประดับ รวมถึง ลิ้นชักและตู้เก็บของด้านบนของตู้เสื้อผ้า ซึ่งเป็นการใช้พื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนตู้เสื้อผ้าสำเร็จรูปผู้ใช้งานอาจต้องมีการติดตั้ง หรือเลือกซื้อส่วนประกอบอื่น ๆ ที่ต้องการใช้งานเพิ่มเติมภายหลัง เช่น ชั้นวางติดผนัง โต๊ะเครื่องแป้ง หรือกล่องเก็บเครื่องประดับ และควรเลือกวัสดุ สีสัน ลวดลายให้คล้ายคลึงกันเพื่อความกลมกลืนภายในห้อง